ต่างประเทศ
คนฮ่องกงขอลี้ภัยเพียบ 'ออสเตรเลีย' - 'แคนาดา' ปลายทางหลัก
เซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ในปีนี้มีชาวฮ่องกงจำนวนมากยื่นขอลี้ภัยไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบภายในอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหลังจากที่จีนแผ่นดินใหญ่ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ โดยจำนวนนี้ผู้ขอลี้ภัยนี้ส่วนใหญ่เลือกจุดหมายปลายทางในประเทศแคนาดาและออสเตรเลียเป็นหลัก
รายงานระบุว่า ยอดสิ้นสุด ณ เดือน ก.ย. มีผู้ยื่นขอลี้ภัยไปยังออสเตรเลียแล้ว 135 คน เพิ่มขึ้น 120 คนจากปีที่แล้ว ส่วนแคนาดาปีนี้มีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 9 คน จากปีที่แล้ว
ปีนี้มีชาวฮ่องกงยื่นขอลี้ภัยไปยัง 5 ประเทศรวมกันทั้งสิ้น 181 คน เพิ่มจาก 141 คนจากปีที่แล้ว และ 62 คนในปี2018 จำนวนนี้มีนักเคลื่อนไหวในการประท้วงหลายคน รวมถึงนักเคลื่อนไหวที่ถูกจับกุมในการประท้วงปีที่แล้วก็ร่วมขอลี้ภัยด้วย โดยมีเป้าหมายไปยังประเทศอื่นๆ อาทิ เยอรมนี นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ดีรายงานไม่ได้ระบุว่า จำนวนนี้มีชาวฮ่องกงเท่าใดที่ยื่นขอลี้ภัยสำเร็จ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านักเคลื่อนไหวหลายร้อยคนรวมถึงผู้ชุมนุมบางคนที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วงในปีที่แล้ว ก็พากันเดินทางไปยังไต้หวันและสหราชอาณาจักร ทั้งด้วยวิธีการถูกก็หมายและผิดกฎหมาย
"สิ่งนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายของฮ่องกงอีกต่อไป"
ข้อความนี้ค่อนข้างชัดเจน - พวกเขาไม่มีความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายของฮ่องกงอีกต่อไป” วิลสัน ชาน อาจารย์ด้านโลกคดีศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงกล่าว
"ตามปกติแล้วระบบตุลาการในฮ่องกงซึ่งมีรากฐานจากตะวันตกมักยอมรับการอพยพหรือให้สิทธิผู้อพยพที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมืองหรือสังคม หรือผู้ที่ถูกคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี่จึงแตกต่างอย่างมาก"
อย่างไรก็ดี ด้านเลาซิวไค รองประธานสมาคมจีนฮ่องกงมาเก๊าศึกษา มองว่า การลี้ภัยนี้เป็นเพียงความพยามในการหลบหนีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจำคุกจากการเคลื่อนไหวประท้วงเท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าบางประเทศเตรียมออกนโยบายพิเศษเพื่อให้สิทธิลี้ภัยแก่ชาวฮ่องกงโดยเฉพาะ เช่น สหราชอาณาจักรซึ่งมีนโยบายมอบสัญชาติเต็มรูปแบบให้ชาวฮ่องกงที่ถือหนังสือเดินทางสัญชาติอังกฤษนอกราชอาณาจักร (British National Overseas - BNO) หรือ ออสเตรเลียที่เปิดให้ชาวฮ่องกงที่ถือวีซ่าชั่วคราวหรือวีซ่านักศึกษาจะได้รับอนุญาตให้ถือวีซ่าอายุ 5 ปี ซึ่งปูทางไปสู่การได้สิทธิพลเมืองถาวร รวมถึงยกเลิกสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงด้วย
