จุฬาฯ ค้นพบ 'แมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน' หรือ 'แมงมุมไวโอลิน' ครั้งแรกในไทย ที่ถ้ำ จ.กาญจนบุรี มีพิษร้ายแรง อาจทำให้เนื้อเยื้อตาย
ทีมผู้วิจัยจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกีฏวิทยาฯ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดยนิสิตปริญญาเอก นายนรินทร์ ชมภูพวง ค้นพบแมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างการลงพื้นที่สำรวจถ้ำ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยลักษณะของแมงมุมส่วนใหญ่มีสีเหลืองน้ำตาล บางตัวมีสีน้ำตาลเข้ม คล้ายกับสีไวโอลิน จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อ "แมงมุมไวโอลิน" บางตัวมีสีซีด ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน ขนาดประมาณ 7-7.5 มิลลิเมตร
แมงมุมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่มีพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งของโลก พิษของมันจะทำให้เกิดการตายเฉพาะส่วนของเนื้อเยื้อที่ถูกกัด มีถิ่นกำเนิดจากประเทศในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และกระจายไปในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ เม็กซิโก รัสเซีย ออสเตรเลีย จีน เกาหลีและญี่ปุ่น โดยการค้นพบครั้งนี้ถือเป็นการค้นพบแมงมุมสันโดษเมดิเตอร์เรเนียนครั้งแรกในประเทศไทย คาดเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างมีการขนยุทโธปกรณ์จากญี่ปุ่นเข้ามา
จากการเก็บสถิติเป็นเวลา 10 ปี ในต่างประเทศ พบว่าผู้ที่ถูกกัดส่วนใหญ่ จะเป็นเพียงตุ่มสีแดงคล้ายยุงกัดและหายได้ในเวลาไม่นาน แต่มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่จะเกิดแผลรุนแรงจนต้องได้รับการรักษา ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือแพ้พิษรุนแรง
ลักษณะนิสัยของแมงมุมมักจะหลบมุม หากินกลางคืน ไม่ดุร้าย และการโดนกัดส่วนใหญ่จะเกิดจากการสัมผัสโดยตรง หรือโดนตัวโดยบังเอิญเวลาสวมเสื้อผ้าที่มีแมงมุมเข้าไปอาศัย และจากการสำรวจพบว่ามีการกระจายตัวในประเทศไทยในพื้นที่ที่แคบมาก ดังนั้นจึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับแมงมุมชนิดดังกล่าว แต่การทราบถึงสถานะและการกระจายตัวของแมงมุมชนิดนี้ ถือว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างมากในการเฝ้าระวัง และช่วยในการวินิจฉัยอาการของแพทย์ในกรณีที่มีผู้ถูกกัด
สำหรับผู้ที่ถูกแมงมุมสันโดษกัด ที่สิ่งต้องทำ คือ?
1. จับแมงมุมและเก็บรักษาในแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป
2. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่
3. ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่ถูกกัดประมาณ 10 นาที พักไว้ 10 นาที ทำซ้ำเพื่อบรรเทาอาการ
4. พบแพทย์โดยเร็วเพื่อวินิจฉัยอาการและรับการรักษา
จุฬาฯ เผยพบแมงมุมไวโอลินที่มีพิษร้ายแรงชนิดหนึ่งโลก เป็นครั้งแรกในไทย ที่ถ้ำใน อ.ไทรโยก จ.กาญจนบุรี #PPTVHD36 pic.twitter.com/UDnmUqdxuX
— ภนณัฐ พ่วงภู่ (@Pananat_PPTV) January 20, 2016
ขอบคุณภาพจาก @Pananat_PPTV