ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลสเปนเตรียมอนุมัติโครงการจัดสรร 'รายได้ขั้นพื้นฐาน' (Basic Income) ให้กับครัวเรือนกลุ่มเปราะบางที่สุดซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19

'โฮเซ่ หลุยส์ เอสคริวา' รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงทางสังคมของสเปนเผยว่า คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติโครงการดังกล่าวระหว่างการประชุมในวันที่ 26 พ.ค. โดยเบื้องต้นตั้งเป้าจัดสรรรายได้ขั้นพื้นฐาน (Basic Income) ให้กับประชาชน 100,000 ครัวเรือน และหลังจากนั้นก็มีแผนจะขยายให้ถึง 1 ล้านครอบครัว ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณ 3,000-3,500 ล้านยูโรต่อปี โดยผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่อยู่ภายใต้โครงการดังกล่าวจะได้รับเงินรายเดือน อย่างน้อยเดือนละ 464 ยูโร ซึ่งอาจเพิ่มเติมด้วยผลประโยชน์อื่นๆ ตามความจำเป็น

รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงทางสังคมของสเปนบอกว่า โครงการนี้จะเป็นโครงข่ายความปลอดภัยที่ยั่งยืนให้กับผู้ที่เปราะบางที่สุด ขณะที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจของสเปนบอกว่า หากโครงการนี้ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพ รัฐบาลก็หวังว่านี่จะเป็นโครงการที่คงอยู่ไปตลอด โดยเป็นเครื่องมือเชิงโครงสร้างและถาวร

เมื่อปี 2560 ฟินแลนด์เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ได้ทดลองโครงการจัดสรรรายได้ขั้นพื้นฐาน โดยจ่ายเงินเดือนฟรีให้กับชาวฟินแลนด์ที่ว่างงาน 2,000 คน เป็นเงิน 560 ยูโรต่อเดือน ไม่ว่าผู้รับจะหางานได้ในเวลาที่กำหนดหรือไม่ แต่ทางการฟินแลนด์ก็ได้ยุติการทดลองไปแล้วตอนนี้ ส่วนอิตาลีก็มีการประกาศเริ่มโครงการ “Citizens' Income” เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อหวังแก้ปัญหาความยากจนและการว่างงาน อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าโครงการของทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ส่งผลมากนักต่ออัตราการว่างงาน ขณะที่โครงการจัดสรรรายได้ขั้นพื้นฐานของสเปนจะจัดลำดับความสำคัญไปที่ครอบครัวก่อน ซึ่งรวมถึงครอบครัวที่เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว 

สเปนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่การระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดในยุโรป จนถึงตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 278,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 27,700 ราย ข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงทางสังคมของสเปนระบุว่านับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ถึงวันที่ 1 เม.ย. มีชาวสเปนตกงานประมาณ 900,000 คน มากกว่าช่วงวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551 

ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนได้เสนอแนวคิดการมีกลไกทั่วไปในการรับรองรายได้ให้กับครอบครัวที่ไม่มีรายได้หรือรายได้ต่ำเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว แต่การเสนอโครงการดังกล่าวก็ถูกเร่งให้เดินหน้าจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 

อ้างอิง BBC / Business Insider / Reuters / euronews