ไม่พบผลการค้นหา
ก.ศึกษาฯ ทำ MOU กับทาง รร.สารสาสน์ฯ รับผิดชอบเยียวยา ผู้ปกครองเเละนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครูทำร้ายนักเรียน รร.ยืนยันคืนค่าเรียนเทอมนี้ เเละรับผิดชอบทางการเเพทย์ตามจำนวนที่จ่ายจริง พร้อมจัดมาตรการป้องกันเหตุซ้ำ

กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.) เรียกพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายของผู้ก่อตั้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ พร้อมผู้บริหารของโรงเรียนในเครือฯ เข้าชี้เเจงแนวทางการเเก้ปัญหาเรื่องครูทำร้ายนักเรียน ก่อนทำข้อตกลงเป็นหนังสือแจงรายละเอียด

ภายหลังการหารือนานกว่า 4 ชั่วโมง รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ทำหนังสือข้อตกลงหลังผู้ปกครองทำข้อเสนอมายังกระทรวงศึกษาธิการ โดยทางโรงเรียนยืนยันความรับผิดชอบ เเบ่งเป็น 2 กรณีใหญ่ คือ

กรณีที่ 1 ทางฝ่ายผู้ปกครองในห้องเรียนของบุตรหลานที่ถูกกระทำและยังประสงค์จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนต่อนั้น ทางโรงเรียน

1.พร้อมคืนค่าธรรมเนียมในทุกกรณี ของปีการศึกษา 2563

2.โรงเรียนเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดเเละมีจอมอนิเตอร์ ในโรงอาหาร เพื่อให้ผู้ปกครองสังเกตการณ์ และหลังจากนั้นจะทำเป็นออนไลน์ให้ดูกล้องได้ 

3.ทำป้ายชื่อ รูปภาพ และตำเเหน่ง ใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครู ทุกคน ติดหน้าห้องเรียนทุกห้องเเละเผยเเพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน 

4.โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ทั้วร่างกายและจิตใจของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง

5.จัดนักจิตวิทยาประจำโรงเรียนเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ และประเมินพร้อมส่งให้ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน

6.อนุญาตให้ผู้ปกครอง เข้าตรวจสอบสุขอนามัยของนักเรียนในโรงเรียน เเต่ต้องไม่รบกวนการเรียนการสอนเเละการใช้ชีวิตของนักเรียน

7.จัดอาหารกลางวันตามหลักโภชนาการ โดยเเจ้งรายการอาหารให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เเละเพิ่มเวลากินอาหารจากเดิม 30 นาทีเป็น 40 นาที

8.จัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยเเละครูต่างชาติ

9.จัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียนให้มีที่นั่งเพียงพอ และจะติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถ ดูเเลความปลอดภัย และรายงานจำนวนเด็กนักเรียนที่ขาด ลา มาสายเป็นรายวัน

10.จัดประชุมผู้ปกครองทุกระดับชั้น ทุกปีการศึกษา โดยเริ่มเดือนตุลาคมนี้

กรณีที่ 2 กรณีที่ผู้ปกครองประสงค์จะขอย้ายบุตรหลายไปเรียนต่อที่อื่น แบ่งเป็น

1.โรงเรียนจะอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารส่งตัวนักเรียนให้เเล้วเสร็จภายใน 1 วัน

2.คืนค่าเทอมและค่าธรรมเนียมอื่นในปีการศึกษา 2563

3.โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ทั้งร่างกายและจิตใจ ของนักเรียนที่ถูกกระทำและได้รับผลกระทบเต็มจำนวนที่จ่ายจริง

4. ค่าชดเชย เเละค่าบำรุงขวัญ โรงเรียนจะเร่งดำเนินการพิจารณาโดยแจ้งความคืบหน้าทันที

ขณะเดียวกันรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่ิอเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหา โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นิติกรสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนศึกษาธิการจังหวัด โดยมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามเเก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักเรียนเเละผู้ปกครองตามยันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์และกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมให้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 


ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียน 'ขอโทษ-เสียใจ-ยอมรับผิด' ไม่ขอแก้ตัวแต่ขอโอกาส

ด้านพิสุทธิ์ ยงค์กมล และสุทธิพงศ์ ยงค์กมล ทีมผู้บริหารเครือโรงเรียนสารสาสน์ แถลงเปิดใจกรณีครูทำร้ายนักเรียน ภายหลังประชุมและทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการแล้ว

พิสุทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ผู้บริหารรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก โดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนสารสาสน์ มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนในเรื่องนโยบายการต่อต้านการกลั่นแกล้งในโรงเรียน (Bully) เบื้องต้น ต้องขอโทษผู้ปกครอง และสังคมอีกครั้ง และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น

ยืนยันจะแก้ไขปัญหาด้วยความจริงใจอย่างตรงไปตรงมาเสมือนว่าพวกเราเป็นผู้ปกครอง โดยทุกข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการวันนี้จะนำไปปฏิบัติช่วยเหลือแก้ไข และพร้อมรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง โดยได้สั่งการให้โรงเรียนในเครือสารสาสน์ทั้งหมด จัดตั้งศูนย์ร้องเรียนที่ห้องธุรการ โดยจะมีการปรับระบบคุณภาพของการบริหารโรงเรียน รวมถึงบุคคลากรให้มีธรรมาภิบาล รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพของครูผู้สอน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนกรณีที่พิบูลย์ ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งเครือสารสาสน์ ให้สัมภาษณ์รายการหนึ่งจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น พิสุทธิ์ ระบุว่า อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดเนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จึงอาจทำให้เสียงไม่ชัดเจน โดยพิบูลย์ไม่ได้มีเจตนาอย่างที่พูดออกไป และยืนยันเจตนาที่จะช่วยเหลือและความยุติธรรมกับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมย้ำว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเพียงแต่ขอเวลาในการแก้ไขปัญหา

ด้าน สุทธิพงศ์ กล่าวว่าขอเวลาให้โรงเรียนสารสาสน์ได้ปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการบริหารใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งหลังจากนี้ผู้ปกครองและสื่อมวลชนสามารถติดตามความคืบหน้าการประชุมผู้ปกครองได้ โดยทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ได้

ขณะที่ สยมพร ทองเนื้อดี คณะกรรมการส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ในฐานะดูแลรับผิดชอบครูปฐมวัย ระบุว่าตอนนี้ทางโรงเรียนได้นำบุคลากรจากส่วนกลางโรงเรียนสารสาสน์ ที่จบครูด้านปฐมวัยมาสอนแทนครูชุดเก่า รวมถึงได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนของชั้นอนุบาล เช่น การเพิ่มกิจกรรมผ่อนคลายให้เด็กในช่วงเช้าให้เด็กมีความสุขมากขึ้น ปรับบุคลากร ปรับสภาพแวดล้อมห้องเรียน โดยอยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ทีมส่วนกลางที่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ตั้งใจปรับปรุงด้านอนุบาลให้ดีขึ้น และยอมรับว่าภาพที่เกิดขึ้นสร้างความตระหนักใจกับทุกฝ่าย แต่ก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการการแก้ไขปัญหา โดยผู้ปกครองสามารถสอบถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาได้ที่ ตนเอง, วริษสนันท์ เดชปานประสงค์ คณะทำงานจากส่วนกลาง และวารุณี เผือกเทศ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน

ด้านอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า อยากให้มั่นใจ ว่าทุกอย่างจะถูกนำมากางบนโต๊ะและข้อตกลงต่างๆ ที่โรงเรียนรับปากกับผู้ปกครอง จากนี้ไปคณะทำงานที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตั้งขึ้นมา จะติดตามความคืบหน้ารายวัน อยากเห็นการเรียนการสอนกลับสู่ปกติเร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง