ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมโรค ชี้แจงผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ขอความร่วมมือไม่ให้มีการจัดรูปแบบหรือการจัดสถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการโฆษณาตราสินค้า และไม่กลายเป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่

นายแพทย์นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เป็นประธานในการประชุมชี้แจงผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยมี ผศ.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเทศศาสตร์ และ นายอำนาจ บุบผามาศ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์ ร่วมชี้แจง

กรมควบคุมโรค โดยสำนักงานคณะกรรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้เชิญตัวแทนผู้จำหน่ายขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศ เข้าร่วมรับฟังข้อเท็จจริงเพื่อปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยขอความร่วมมือไม่ให้มีการจัดรูปแบบหรือการจัดสถานที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการโฆษณาตราสินค้า ซึ่งเป็นการสื่อสารการตลาดที่ผิดกฎหมาย ตามมาตรา 32 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากมีโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ฝ่าฝืนยังมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง

อีกทั้ง ยังขอความร่วมมือให้สถานประกอบการต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรา 29 ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคล บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รวมถึงมาตรา 30 (5) ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการแจก แถม ให้ หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับสินค้าอื่น หรือการให้บริการอย่างอื่น แล้วแต่กรณี หรือแจกจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะเป็นตัวอย่างของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเป็นการจูงใจสาธารณชนให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขการขายในลักษณะที่เป็นการบังคับซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรงหรือโดยอ้อม หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

นายแพทย์นิพนธ์ กล่าวอีกว่า การชี้แจงครั้งนี้ เป็นการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เนื่องจากต้องการเห็นการขับเคลื่อนและการปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นเวทีที่จะทำให้ผู้จำหน่ายไม่กลายเป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ที่จะมาถึงนี้