ไม่พบผลการค้นหา
พรรณิการ์ วานิช ยัน ส.ส.แตกแถวรอมติพรรคจัดการตามวินัยพรรค เผยกระแสชาวสามพรานตอบรับดี แต่ยังห่วงคะแนนเสียงถูกบิดเบือน พร้อมเตรียมอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งทุกหน่วย

แกนนำและ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นำโดยนางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค ลงพื้นที่ช่วยนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.นครปฐม ของพรรคหาเสียงโค้งสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่จะมาถึงในวันพุธที่ 23 ตุลาคมนี้ โดยมีการขึ้นรถโมบายหาเสียงรอบอำเภอสามพราน ในช่วงเช้า และช่วงบ่าย ลงแจกใบปลิวและหาเสียงกับประชาชนที่ตลาดศาลเจ้าพ่อแก่สะแกทอย ตำบลหอมเกร็ด พื้นที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ก่อนมีเวทีปราศรัยที่ตลาดธันยาถนน เพชรเกษม ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน ซึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาสมทบและเป็นผู้นำการปราศรัย โดยมีแกนนำและ ส.ส.ของพรรคร่วมเวทีเป็นจำนวนมาก

นางสาวพรรณิการ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่า ประชาชนในพื้นที่ให้ตอบรับอย่างเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการซื้อเสียงและกังวลเรื่องปัญหาในการนับคะแนนและประกาศผลการเลือกตั้งที่อาจจะบิดเบือนคะแนนเสียงและจำนวนของประชาชนซึ่งทางภาคเหนือมีอาสาสมัครสังเกตการณ์ทุกหน่วยเลือกตั้งส่วนการทุจริตเสียงมีคณะทำงานพิเศษที่มาดูแลรวบรวมหลักฐานในเรื่องนี้เพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมกันนี้เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ดำเนินการให้นายจ้างอนุญาตให้แรงงานออกมาใช้สิทธิ์ได้โดยสะดวกและเท่าเทียม เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนยืนยันภูมิลำเนาว่ามีสิทธิ์เลือกตั้งก็เพียงพอ ซึ่งประชาชนในอำเภอสามพราน ไม่ได้ทำงานในพื้นที่เท่านั้น แต่ทำงานในจังหวัดปริมณฑลรอบๆ ด้วย

ส่วนกรณี ส.ส.ไม่ทำตามมติพรรคในการลงมติงบประมาณปี 2563 นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่าทางพรรคมีข้อบังคับทางวินัย หลังจากเลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐมเสร็จสิ้น จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนจะมีการลงโทษถึงขั้นขับออกจากพรรคหรือกดดันให้เจ้าตัวลาออกตามที่สมาชิกพรรคส่วนหนึ่งเรียกร้องหรือไม่นั้น ต้องรอมติอย่างเป็นทางการ 

นางสาวพรรณิการ์ ยืนยันว่า ความเห็นที่แตกต่างไม่ใช่ความแตกแยกภายในพรรค เพราะไม่ใช่แค่กรณีนี้กรณีเดียว เนื่องจากในหลายจังหวัดก็มีสมาชิกพรรคร้องเรียนเกี่ยวกับการทำหน้าที่ ส.ส.และมีความเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่ดีที่สมาชิกพรรคกระตือรือร้นและให้ความสำคัญกับปัญหาต่างๆ ในพรรค และสะท้อนให้เห็นว่า พรรคอนาคตใหม่มีความเป็นสถาบันทางการเมือง และถึงที่สุดการแก้ปัญหาและข้อสรุปต่างๆ ขึ้นอยู่กับมติของพรรค