ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯ รับมีทุจริตค่าตรวจสุขภาพป้องกันโรคเรื้อรังจริง ลั่นดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสั่งสอบใหม่หมด 100% ติง สปสช.รีบดำเนินการโดยเร็ว ไม่ใช่รอเรียกรับเงินคืน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีการทุจริตเงินค่าตรวจสุขภาพป้องกันโรคเรื้อรัง โดยได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ว่าเป็นข้อเท็จจริง และได้รับทราบปัญหาว่ามีการทุจริตจึงมีการเบิกค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้มีการรักษาจริง ซึ่ง สปสช.ได้มีการสั่งการให้หยุดชำระเงินในสถานบริการสาธารณสุขเอกชน 18 แห่ง และยังได้มีการติดตามเงินคืนและยังคงทวงหนี้ต่อไป

นายอนุทิน เน้นย้ำว่าการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เบิกงบประมาณของรัฐเพื่อประโยชน์ที่ตัวเองไม่สมควรได้ โดยจะมีการยกเลิกใบประกอบโรคศิลป์ กับสถานประกอบการนั้นๆ และจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งตนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทั้งหมดใหม่ 100% เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สปสช. มุ่งเน้นเพื่อทำให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน และลดความแออัดของโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งตนได้ตำหนิไปแล้วว่าต้องรีบดำเนินการเร็วๆ ไม่ใช่การรอเรียกรับเงินคืนและทุกอย่างต้องดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และจะกลับมารายงานต่อที่ประชุมสภาให้รับทราบอีกครั้ง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน

สาธิต โต้ฝ่ายค้านแจงงบพัฒนาวัคซีนไม่ถูกหั่น

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงการจัดสรรงบประมาณในส่วนของสาธารณสุข ว่ารัฐบาลได้มีการให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการบรรจุตำแหน่งข้าราชการจำนวน 45,000 อัตรา แต่ต้องยอมรับว่ามีลูกจ้างทั้งหมดที่ไม่ได้เป็นข้าราชการอยู่ถึง 2 แสนคน แต่ในสถานการณ์โควิดเช่นนี้ได้ดำเนินการเพื่อให้เกิดความและกำลังใจสนับสนุนการทำงานภารกิจต่างๆซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข จึงอาจมีบางกลุ่มอาชีพสาขาที่ยังไม่ได้รับการดูแลแต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและจะพยายามดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนในส่วนของการจัดสรรงบประมาณให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ รวมไปถึงสถาบันวิจัยระบบของสาธารณสุข นายสาธิตยืนยันว่า ไม่มีการจัดสรรงบประมาณที่น้อยลงตามที่สมาชิกได้กล่าวซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิด โดยในส่วนของงบประมาณปี 2564 งบในส่วนของการวิจัยและพัฒนาจะถูกเอาไปรวมกับกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรม เพื่อลดความซ้ำซ้อน

ในปีนี้สถาบันวัคซีนได้งบประมาณเพิ่มขึ้น เฉพาะงบกลางที่ได้รับแบ่งเป็น 23.43 ล้านบาท ในขณะนี้รัฐบาลได้ยกระดับสถาบันวัคซีนเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง รวมไปถึงได้มีการบูรณาการร่วมกับเอกชนและหน่วยงานต่างๆ จึงได้มีการจัดสรรงบประมาณจากประกันเงินกู้กว่า 3 พันล้านบาท ให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โดยแบ่งเป็นพัฒนาวัคซีนต้นแบบ 95 ล้านบาท งบการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ 700 2 ล้านบาทและงบการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเป็นวัคซีนต้นแบบอีก 1,513 ล้านบาท

ส่วนงบของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขพบปกติ ได้แบ่งแยกออกมาแล้วจากเดิม 32 ล้านบาท และมีงบวิจัยอีก 49.7 ล้านบาท แต่ในปีงบประมาณนี้ได้งบ 35 ล้านบาทโดยรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการวิจัย และให้งบประมาณเพิ่มเติมขึ้นอีก 1,008 บาท ซึ่งงบประมาณการพัฒนาจริยธรรมวิจัยในมนุษย์ 8 ล้านบาทวิจัยระบบสุขภาพตามแผนยุทธศาสตร์ 200 ล้านบาท งบประมาณวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด และโรคระบาดในอนาคต 300 ล้านบาท รวมไปถึงในพื้นที่ eec จะมีศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยตรวจหาโครโมโซมในการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยจะตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพาจังหวัดชลบุรี ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งงบกลางผ่านกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรมตามแผนงานยุทธศาสตร์อีก 500 ล้านบาท

อ่านเพิ่มเติม