ไม่พบผลการค้นหา
แก๊งค้ามนุษย์ทำธุรกิจอย่างโจ่งแจ้งบนแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง 'อินสตาแกรม' UN ชี้ นี่คือตัวอย่างของ 'การค้าทาสยุคโมเดิร์น'

​ทีมผู้สื่อข่าวจาก BBC Arabic สร้างบัญชีสมมติขึ้นมา โดยปลอมตัวเป็นคู่สามีภรรยา เพื่อเข้าไปสืบค้นกรณีการค้ามนุษย์ในโลกออนไลน์ ผลปรากฎว่าพวกเขาสามารถเข้าถึงตลาดค้ามนุษย์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นการประกาศขายแรงงานมนุษย์อย่างโจ้งแจ้งบนแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง 'อินสตาแกรม' รวมถึงแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ทั้งโด่งดัง ได้รับการยอมรับ และผ่านการตรวจสอบโดยบริษัทกูเกิลและแอปเปิล

เว็บไซต์ Futurism รายงานว่า ทีมสืบสวนของ BBC Arabic กล่าวว่าปัจจุบันมีการประกาศขายผู้หญิงจำนวนมากที่เข้ามาประกอบอาชีพพนักงานทำความสะอาดในกลุ่มประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งยังเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง โดยมีการเรียกขบวนการนี้ว่า "ตลาดทาสออนไลน์"

ทีมสืบสวนได้ทำการติดต่อและนัดพบกลุ่มผู้ค้าทาสหลายรายที่เป็นคนโพสต์ประกาศขายทาสผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ หนึ่งในนั้นคือผู้ค้าทาสในประเทศคูเวต ซึ่งเมื่อมีการนัดพบกันแล้ว ผู้ค้ารายนี้ได้ เสนอขาย 'Fatou' หญิงสาววัย 16 ปีชาวกินีให้กับทีมสืบสวนในราคา 3,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 115,530 บาท 

จากหลักฐานดังกล่าว เออร์มิลา บฮูลา ผู้รายงานพิเศษจากสหประชาชาติระบุกับสำนักข่าว BBC Arabic ว่า นี่คือตัวอย่างสำคัญของกระบวนการค้าทาสในยุคปัจจุบัน เป็นการซื้อขายมนุษย์คนหนึ่งที่ทำราวกับชีวิตของคนๆ นี้เป็นเพียงทรัพย์สินเคลื่อนที่ได้ชิ้นหนึ่งเท่านั้น

ในกรณีของ Fatou เธอได้รับการช่วยเหลือและส่งกลับประเทศกินี พร้อมได้รับการอุปถัมภ์จากครอบครัวท้องถิ่นในที่สุด

หลังการเปิดเผยการสืบสวนครั้งนี้ ทางการของประเทศคูเวตก็ออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยมีรายงานว่าทางการคูเวตเรียกตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการค้าทาสออนไลน์หลายคนเข้าพบ ซึ่งทางการคูเวตได้กล่าวกับ BBC News ด้วยว่าขณะนี้ได้มีคำสั่งให้เจ้าของบัญชีผิดกฎหมายเหล่านี้ระงับการเผยแพร่โฆษณาการค้าทาสลงทั้งหมด พร้อมจับผู้กระทำความผิดลงนามในหนังสือสัญญาว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับการค้าทาสออนไลน์อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ไม่มีการระบุถึงบทลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ นาสเซอร์ อัล-มูซาวี ผู้อำนวยการของสำนักงานดูแลพนักงานรับใช้ในบ้านประเทศคูเวต (Domestic Workers Office) เคยให้สัมภาษณ์กับ BBC Arabic ไว้ว่า "ใครก็ตามที่ข้องเกี่ยวกับธุรกิจค้าทาสจะต้องได้รับบทลงโทษ" 

ด้านบริษัทอินสตาแกรมกล่าวกับ BBC News ว่าทางบริษัทได้ลบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการค้าทาสออนไลน์ออกจากทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมแล้ว และจะเดินหน้าป้องกันไม่ให้ขบวนการค้ามนุษย์สามารถทำธุรกิจเช่นนี้ได้อีก