ไม่พบผลการค้นหา
'หมู่อาร์ม' ชวนประชาชนร่วมให้กำลังใจเข้ารับทราบข้อหาก่อนถูกส่งฟ้องศาลทหารหลังหนีทหารจากการเปิดโปงทุจริตในหน่วยงานของตัวเอง ด้าน 'โรม' ชี้ต้องได้รับการประกันตัวสู้คดี

ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ "หมู่อาร์ม" เสมียนงบประมาณของหน่วยงานในกรมสรรพาวุธทหารบก โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ผมอยากดูหัวใจของคนที่รักความถูกต้อง ความยุติธรรม ความเท่าเทียมกันในสิทธิมนุษยชน และหัวใจของคนที่ไม่ยอมถูกกดขี่ข่มเหง กราบเรียนเชิญสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน ร่วมให้กำลังใจผมได้"

โดย ส.อ.ณรงค์ชัย ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. 2563 เวลา 10.00 น. ตนเองจะเดินทางไปที่กองบัญชาการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ปทุมธานี เพื่อรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา และส่งฟ้องไปยังศาลทหารตรงด้านในของกระทรวงกลาโหม ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.กรุงเทพมหานคร และตนจะยื่นคำขอประกันตัว ตามข้อกฎหมาย ตามกระบวนการ 

"ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น ผมเลือกที่จะเดินตามกระบวนการเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ซ้ำรอยจ่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ที่โคราชเพื่อสร้างมาตรฐาน ท่านก็ควรทำตามกระบวนการด้วยความยุติธรรมเช่นกัน"

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ส.อ.ณรงค์ชัยจะเข้ารายงานตัวที่กองบัญชาการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ปทุมธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีหนีทหาร จากการร้องเรียนการทุจริตภายในหน่วยงาน และจะถูกนำตัวส่งฟ้องไปยังศาลทหารกรุงเทพฯ ซึ่งหากไม่ได้รับการประกันตัว หมู่อาร์มจะถูกฝากขังที่เรือนจำทหาร

"หมู่อาร์มเป็นเสมียนทหารชั้นประทวน อายุ 33 ปี ที่พบเห็นการทุจริตภายในหน่วยทหารที่ตนสังกัด และพยายามร้องเรียนหน่วยงานภายในตามขั้นตอน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้บังคับบัญชา ซ้ำยังถูกสอบวินัยและลงโทษสั่งขังจากการมีปากเสียงกับผู้บังคับบัญชา หมู่อาร์มจึงตัดสินใจออกจากค่าย หอบหลักฐานมาฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 แต่กระบวนการคุ้มครองพยานของ ป.ป.ช. ใช้เวลาถึง 3 เดือน จนล่าช้ากว่าคำสั่งปลดของกรมสรรพาวุธทหารบก ส่งผลให้หมู่อาร์มถูกปลดออกจากราชการ และไม่สามารถเข้ากระบวนการโอนย้ายหน่วยงานตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 133 ได้"

นายรังสิมันต์ ยังระบุว่า ทหารคนหนึ่งหาญกล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตภายในกองทัพ ซึ่งคณะกรรมการที่กองทัพบกตั้งขึ้นเพื่อสืบสวนกรณีนี้เองก็ยังมีข้อสรุปว่ามีการทุจริตจริง มีทหารยศนายพล นายพันเกี่ยวข้องหลายราย แต่ทหารยศนายสิบที่ออกมาเปิดเผยรื่องนี้กลับถูกปลดออกจากราชการ ไม่ได้รับการโอนย้ายหน่วยงาน แม้ว่าจะมีกฎหมายของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รองรับอยู่ และกำลังจะติดคุก เขายอมแลกทั้งหน้าที่การงานและอนาคต เพื่อการรักษาเกียรติภูมิของกองทัพ นี่หรือคือการตอบแทนความซื่อสัตย์สุจริตของเขา

"เราจะเฉยชากับเรื่องนี้ได้จริงๆ หรือครับ ร่วมกันให้กำลังใจหมู่อาร์มกันครับ ส่งเสียงเรียกร้องขอให้เขาได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี พิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ" นายรังสิมันต์ ระบุ