ไม่พบผลการค้นหา
เรื่องราวชีวิตหลังเกษียณของอดีตข้าราชการ ‘กาญจนา พันธุเตชะ’ หรือ ป้าแป๋ว ที่ตัดสินใจแบกกระเป๋าเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศคนเดียวในวัย 66 ปี เธอไม่คิดเอา ‘อายุ’ หรือข้อจำกัดต่างๆ มาเป็นอุปสรรคในการเดินทาง เพราะคนเราไม่ควรตีกรอบให้กับตัวเอง

กาญจนา พันธุเตชะ หรือ ป้าแป๋ว อดีตข้าราชการวัย 66 ปี ที่โลกโซเชียลรู้จักในนาม ‘ป้าแบ็กแพ็ก’ ใช้ชีวิตหลังเกษียณ เดินทางเที่ยวรอบโลกคนเดียว โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เธอเก็บเกี่ยวความสุขไปถึง 23 ประเทศ

“การท่องเที่ยวเป็นการเปิดโลกกว้าง เป็นความสุขในชีวิต แทนที่จะนั่งอับเฉาจำเจอยู่บ้านในวัยเกษียณ” ป้าแป๋วบอกด้วยรอยยิ้ม

ป้าแบ็กแพ็ก

แม้จะตั้งคำถามกับตัวเองในตอนแรกว่า “ฉันไหวไหม ฉันจะทำได้หรือเปล่า” แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตัวเองได้อย่างชัดเจนว่า “ฉันต้องรีบลงมือทำ” 

ป้าแป๋วเรียนจบวิชาชีพพยาบาล ทำงานเป็นนักวิชาการด้านส่งเสริมป้องกันโรค หลังเกษียณอายุเธอทบทวนตัวเองและพบว่ายังมีร่างกาย สมองและหัวใจที่แข็งแรง การนั่งๆ นอนๆ กดรีโมทชมโทรทัศน์ ฟังวิทยุอยู่บ้านไม่ตอบโจทย์ชีวิต

เธอเล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกได้ตัดสินใจท่องเที่ยวในเมืองไทยก่อน โดยเลือกจังหวัดที่เคยไปเยือนมาแล้ว สิ่งที่สัมผัสได้คือการท่องเที่ยวในวัยเกษียณนั้นเต็มไปด้วยความสุข ได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ และเรื่องราวของสถานที่นั้นๆ อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นอารมณ์ของคนที่ไม่มีภาระอะไรให้ต้องคิดกังวลอีกแล้ว

หลังจากท่องเที่ยวในเมืองไทยได้สักระยะ ป้าแป๋วเริ่มมีความคิดว่าอยากไปเที่ยวยุโรป ด้วยแรงจูงใจของราคาทัวร์ที่ค่อนข้างถูกในช่วงหน้าหนาว จึงโทรไปชักชวนเพื่อน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาเพื่อนไปด้วยได้ เลยเกิดเป็นปมในใจ กระทั่งวันหนึ่งได้ไปเจอหนังสือเกี่ยวกับการแบกเป้เที่ยว ซึ่งรายละเอียดภายในอธิบายขั้นตอนวิธีการท่องเที่ยวคนเดียว กลายเป็นสิ่งที่จุดประกายให้ป้าแป๋ว ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และขอวีซ่า เพื่อล่าความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต

ป้าแบ็กแพ็ก

ประเทศแรกที่เธอไปคือ ‘เมียนมา’ แม้เริ่มต้นด้วยความกลัวแต่สุดท้ายจบลงด้วยความประทับใจไม่รู้ลืม

“ตื่นเต้นมาก กลัวนะ แต่เป็นความอยากจะไป เป็นความกล้า ป้าไปตามรอยมะเมียะ ที่เมืองละแหม่ง เป็นเมืองมอญที่อยู่ทางใต้ของพม่า คิดตลอดการเดินทางว่าเราจะต้องเจอกับอะไร สภาพเป็นยังไง ทำใจไว้ก่อน จะเจออะไรต้องอยู่ให้ได้ เราไม่เคยไปพม่ามาก่อน รู้จักทางหนังสือ แต่พอไปถึงมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่ได้รู้สึกเหงาระหว่างทริปเลย”

“ป้าแป๋วไม่มีอะไรจะต้องรับผิดชอบเลยนะคะ หน้าที่การงานก็ไม่มีแล้ว ชีวิตครอบครัวลูกๆ ก็โตหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้อง โอ๊ย..ฉันต้องคอยห่วง รีบกลับมาอะไรอย่างเงี้ยนะคะ พอฉะนั้นเราก็จะรู้สึกเป็นอิสระ คิดเพียงแค่เรื่องเดินทางของเรา”

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การท่องเที่ยวยุคสมัยนี้กลายเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบายมากกว่าในอดีต สิ่งสำคัญที่สุดคือการกล้าที่จะออกเดินทางและจัดเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

ป้าแบ็กแพ็ก

สาวใหญ่วัยเกษียณบอกว่า การท่องเที่ยวเป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์ทุกวัย ประสบการณ์และมุมมองที่ทุกคนได้รับขึ้นอยู่กับช่วงวัย ซึ่งอาจจะเห็นอะไรที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสิ่งที่ได้รับ สามารถนำมาเป็นไอเดีย ต่อยอดความคิด และพัฒนาทักษะชีวิตหลายๆ ด้านให้กับตัวเอง

คนวัยเกษียณจำนวนมาก จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้าน คิดเพียงแต่เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้าน เมื่อไหร่จะมีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยียน สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เราจิตใจห่อเหี่ยวซึมเศร้าได้ เพราะฉะนั้นกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

“การท่องเที่ยวทำให้ป้าได้ใช้สมองในการเตรียมข้อมูล ได้ใช้ร่างกายในการออกกำลังกาย และเมื่อพบเจอสิ่งที่น่าประทับใจ นั่นก็ช่วยในเรื่องจิตใจของเรา”

เมื่อถามว่าลูกหลานเป็นห่วงในการออกเดินทางท่องเที่ยวของแม่หรือไม่ เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “มันเลยเวลาแล้วแหละ ไปหลายๆ ครั้งจนเขาชินแล้ว ลูกบอกแม่ไปเลย เราเองก็รู้สึกว่าถ้ายังแข็งแรงอยู่ก็ไปซะเถอะ ไม่รู้จะไปได้อีกนานแค่ไหน”

สำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละทริป ป้าแป๋วเผยว่า ไม่มากอย่างที่คิด เลือกที่พักแบบโฮสเทล ราคาถูก เดินทางโดยรถสาธารณะ เครื่องบินชั้นประหยัด โดยระยะเวลา 45 วัน ใช้งบประมาณเพียง 100,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเงินออมตั้งแต่ยังทำงาน

“อยู่ที่ว่าเราจะเลือกพาหนะแบบไหน ที่พักแบบไหน หรือการกินแบบไหนที่ไม่ทำให้เราเสียเงินเยอะ”เธอยิ้มและบอกต่อ “ป้าชอบชีวิตหลังเกษียณนี้มาก อิสระกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ สามารถไปในที่ๆ เราอยากไป เมื่อก่อนมีภาระผูกพันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน”

ป้าแบ็กแพ็ก

อดีตข้าราชการ ย้ำว่า ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากตัวเอง คนวัยเกษียณควรคิดถึงตัวเองเป็นอันดับแรก หลังจากทำงานมาทั้งชีวิต ครอบครัวมาเป็นอันดับสอง

“เราอยากทำอะไร เราทำได้ไหม เราไปไหวหรือเปล่า ถ้าเราไปได้ ไปไหว ไปเลย ไม่ต้องรอหรอกค่ะ บางอย่างเราสามารถทำได้เองโดยที่ไม่ต้องรอลูก เพราะบางทีลูกเขาก็มีภาระ”

อายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่มาคอยตีกรอบหรือกำหนดชีวิต แต่เป็นโอกาส ร่างกาย และความคิดในการกล้าตัดสินใจ

“บางคนอาจจะมองว่า อายุขนาดนี้แล้วยังทำอย่างนี้อยู่อีกหรอ ไปที่นี่ได้หรอ อย่างนู้นอย่างนี้ สำหรับตัวป้าเอง ไม่เคยดูอายุค่ะ เพราะบางคนชอบตีกรอบให้กับตัวเอง นี่คือสิ่งสำคัญ เพราะคนชอบคิดว่าเราแก่แล้ว เราทำไม่ได้ แต่จริงๆ เราทำได้นะ เพราะนับวันเวลาก็จะถดถอยไปเรื่อยๆ ถ้าช้ากว่านี้อาจจะไม่ไหว หรือไม่มีโอกาสได้ทำ นี่เป็นเรื่องที่ป้าอยากให้สูงวัยทุกคนคิดเหมือนกัน ‘อะไรทำได้ ทำเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้ใครทำให้’ แล้วเราจะมีความสุข”

“ชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็วนะคะ สำหรับป้าแป๋วเป็นคนที่ชอบเดินทาง แล้วก็มีเป้าหมายที่จะไปอีกหลายประเทศ จนถึงอายุ 70 หรือมากกว่านั้น ตราบที่ยังมีแรง” ป้าแป๋วกล่าวปิดท้าย

อ่านข่่าวที่อื่นๆ :

สิยานันท์ ช่อลำเจียก
ผู้สื่อข่าวโต๊ะบันเทิง ศิลปะวัฒนธรรม วอยซ์ออนไลน์
0Article
0Video
0Blog