ไม่พบผลการค้นหา
นักท่องเที่ยวหลายประเทศในยุโรปหลายร้อยคนติดเชื้อโควิด-19 หลังจากกลับจากการพักผ่อนในสกีรีสอร์ตที่ออสเตรีย คาดเกิดจากการสังสรรค์และเล่นปิงปองเบียร์ในบาร์

สกีรีสอร์ตในหมู่บ้านอิสชเกิล (Ischgl) ในเมืองทีโรล (Tyrol) ประเทศออสเตรียกลายเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แห่งหนึ่งในยุโรป หลังจากนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนทั้งจากนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ เดนมาร์ก เยอรมนี อังกฤษรวมถึงออสเตรียต่างติดเชื้อโควิด-19 จากการพักผ่อนในสกีรีสอร์ตในพื้นที่ดังกล่าว

เฮนริค เลอร์เฟลด์ ชาวเดนมาร์กวัย 56 ปี กล่าวว่า เขาพบว่าตนเองและเพื่อนที่เดินทางไปสกีรีสวอร์ตที่เมืองดังกล่าวติดเชื้อเชื้อโควิด-19 หลังจากกลับมาจากหมู่บ้านอิสชเกิลในออสเตรีย

นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 300 รายในเดนมาร์กต่างล้วนมีประวัติการติดเชื้อไวรัส หลังจากเดินทางกลับประเทศออสเตรีย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อในเดนมาร์กเพียง 61 รายที่ได้รับเชื้อจากการเดินทางกลับจากอิตาลี

ด้านเยอรมันมีผู้ติดเชื้อเกือบ 300 รายเช่นกันที่พบว่าติดเชื้อหลังจากเดินทางกลับจากออสเตรีย 

ทั้งนี้ มีผู้สันนิษฐานว่าการแพร่เชื้อนั้นอาจเกิดจากการเล่นเกมปิงปองเบียร์ที่ผู้เล่นจะอมลูกปิงปองไว้ในปากก่อนที่จะพ่นลงในแก้วเบียร์ ซึ่งลูกปิงปองดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ ในบาร์

000_1PV4KV.jpg

(บาร์ที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด)

ทางด้านเมืองทีโรลออกแถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองได้ติดต่อแพทย์ในหมู่บ้านอิสชเกิลทันทีหลังจากได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธาณสุขของไอซ์แลนด์ว่า มีชาวไอซ์แลนด์ที่กลับมาจากพื้นที่ดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เมืองทีโรลยังกล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องดังกล่าวได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่โรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์พักและพบว่าไม่มีผู้เข้าพักหรือลูกจ้างคนใดอยู่ในโรงแรมดังกล่าวมีรายงานอาการการติดเชื้อไวรัสโคโรนาแต่อย่างใด

ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 8 มี.ค.หน่วยงานสาธารณสุขของเมืองทีโรลซึ่งเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ตแห่งนี้แจ้งว่า บาร์เทนเดอร์ชาวเยอรมันที่ทำงานในบาร์คิสซโลช (Kitzloch) ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ออสเตรียก็ยังอนุญาตให้สกีรีสอร์ตเปิดทำการต่อไปและยังสามารถจัดกิจกรรมสังสรรได้ จนถึงวันที่ 13 มี.คง ที่ผ่านมา สกีรีสอร์ตในหมู่บ้านอิสชเกิลได้ถูกปิดและบาร์และร้านอาหารต่างๆ ถูกปิดเช่นกันตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. และเมื่อวันที่ 18 มี.ค.รัฐบาลออสเตรียได้มีคำสั่งปิดเมืองทีโรล ซึ่งทำให้ 279 หมู่บ้านในเมืองดังกล่าวถูกล็อกดาวน์ทันที หลังจากเป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรีย

หมู่บ้านอิสชเกิลและหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฤดูหนาวแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละประมาณ 500,000 ราย ทั้งนี้ทางการออสเตรียได้มีประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้โรงแรมและร้านอาหารในพื้นที่เมืองทีโรลจนถึงช่วงสิ้นสุดเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเมื่อวันพุธที่ผ่านมารัฐบาลออสเตรียได้มีมาตรการให้ทุกคนที่ใช้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่เชื้อ

ปัจจุบันออสเตรียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 10,000 ราย โดยอยู่ในเมืองทีรอย 2,358ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 128 ราย

ทางด้านสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคของออสเตรียกล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 มี.ค.) มีประชาชนกว่า 2,500 คนที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเมืองทีโรลมาลงทะเบียนเพื่อเรียกร้องให้มีการจัดการกับเจ้าหน้าที่เมืองดังกล่าว ซึ่งกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มาลงทะเบียนนั้นเป็นชาวเยอมัน

ในเวบไซต์ของVSV ยังระบุว่า ประชาชนคนใดที่เดินทางไปยังสกีรีสอร์ตที่อิสซเกิลในช่วงระหว่างวันที่ 5 มี.ค. หรือหลังจาก โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อไวรัสมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายจากทางรัฐบาลเมืองทีโรลและรัฐบาลออสเตรียในฐานประมาทเลิ่นเล่อได้ 

ที่มา BusinessInsider / CNN / BBC