ไม่พบผลการค้นหา
นายสมคิด เชื้อคง เผย ครม.สัญจร อุบลราชธานี เป็นผลมาจากการตกลงผลประโยชน์ของพลังดูดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา เชื่ออาจดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทย ไปแล้ว 2 คน แต่เชื่อว่าไม่กระทบการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง

นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส. จังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับทีมข่าววอยซ์ ออนไลน์ ถึงกรณีการเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที ที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันพรุ่งนี้ ว่า เป็นเกมการเมือง ที่มีการเจรจามาก่อนหน้านี้แล้ว 2 - 3 เดือน แล้วค่อยมาชัดเจนเมื่อช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีรัฐมนตรีบางคนลงไปคุยกับกลุ่มการเมืองในพื้นที่ และเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ลูกสาวของอดีต ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา ที่เสียชีวิตไปแล้ว นำทีมอดีตนักการเมืองของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคไทยรักไทย และสมาชิกสภาจังหวัด เข้าไปหารือกับทีมเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

"ดังนั้น พรุ่งนี้ นักการเมืองท้องถิ่นจะออกมาต้อนรับหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะ ครม. สัญจร ครั้งนี้ไม่ได้มาดูด แต่เป็นการดำเนินการหลังจากเจรจาล่วงหน้ามาแล้ว แล้วจึงเอาโครงการและงบประมาณมาลงในพื้นที่ผ่านกระทรวงต่างๆ เพื่อให้ข้าราชการ นักการเมืองระดับชาติ และนักการเมืองท้องถิ่นทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน"

ส่วนอดีตนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยเองคงไม่ไปร่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะ เนื่องจากไม่มีการชักชวนมาล่วงหน้า และถึงเชิญก็คงจะไม่ไป เนื่องจากเห็นว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการใช้อำนาจรัฐในการหาเสียง เอื้อประโยชน์ทางการเมือง และทำให้พรรคอื่นๆเสียเปรียบ ถือว่าเป็นการทำงานการเมืองที่ไม่ตรงไปตรงมา แม้ตนจะไม่ปฏิเสธเรื่องโครงการพัฒนาชุมชน แต่รัฐบาลควรทำให้โปร่งใส

อย่างไรก็ตาม นายสมคิด เล่าว่า ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐสามารถหาอดีตนักการเมือง หรืออดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งในท้องถิ่นมาลงสมัครได้ครบทุกเขต ทั้ง 10 เขตในอุบล และจังหวัดข้างเคียงในกลุ่มนี้ รวมทั้ง อาจจะมี นายสุพล ฟองงาม และนายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย อาจจะออกเพื่อเข้าไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐด้วย

ส่วนอดีต ส.ส. ที่เหลือในค่ายของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ยังคงเหนียวแน่น แม้ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายปัญญา จินตะเวช จะไม่ได้ลงสมัคร แต่จะส่งลูกชาย คือ นายประภูศักดิ์ จินตะเวช ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยแทน รวมทั้งนายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า จาการพูดคุยกับนายเกรียงเบื้องต้น ยอมรับว่าพลังดูดมีผลกระทบบ้าง แต่ถ้าปลดล็อคแล้วพรรคมีเวลาทำงาน คงจะสามารถเตรียมคนมาลงในพื้นที่ได้ และสามารถชิงเก้าอี้ในจังหวัดอุบลและจังหวัดข้างเคียงได้ ทั้งนี้นายเกรียงเข้าใจดีว่า ในการเลือกตั้งต้องมีการแข่งขันกันอยู่แล้วเป็นปกติ แม้ว่าตอนนี้ทางกรรมการบริหารพรรคเองจะยังไม่ชัดเจนว่ามีใครบ้าง แต่อุดมการณ์ของพรรคยังชัดเจน คือ ทำเพื่อประชาธิปไตย ให้่อำนาจแก่ประชาชน ส่วนใครจะอยู่ หรือจะออกไปเป็นเรื่องของใจอย่างเดียว

อนุสรณ์.jpg

'อนุสรณ์' ชี้ ครม.สัญจร เป็นเพียงการเช็คชื่อ ส.ส. ก่อนลงเลือกตั้ง

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ไปจัดประชุม ครม. สัญจร ถูกตั้งคำถามจากประชาชนผู้เสียภาษี ถึงเรื่องความคุ้มค่าและผลสัมฤทธิ์ที่มากกว่าการประชุม ครม. ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากการจัดประชุมในสถานการณ์พิเศษลักษณะนี้ เข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. ที่ 57/2557 เรื่องห้ามพรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมือง และ คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คน และที่สำคัญในสถานการณ์ที่บ้านเมืองต้องการความปรองดองสมานฉันท์ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ภาพที่ออกมาคล้ายกับว่าจังหวัดใดจัดการต้อนรับที่ใหญ่กว่าจะได้รับงบประมาณมากกว่าจังหวัดอื่นๆ จึงเกิดภาพการลงทุนเพื่อให้จังหวัดของตัวเองได้รับงบประมาณมากที่สุด รวมถึงกรณีนักการเมืองระดับชาติ และระดับท้องถิ่นที่จะไปรับก็แบ่งฝักแบ่งฝ่าย อดีต ส.ส. ที่จะย้ายไปเป็นแนวร่วมสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต้องไปรับ พลาดไม่ได้เสมือนหนึ่งการเช็คชื่อ ส่วนใครไม่ไปรับ ก็อาจถูกมองว่าต่อต้านหรือไม่

"สิ่งที่ท่านเคยกล่าวหาว่าการเมืองล้าหลังน้ำเน่า วันนี้พวกท่านทำยิ่งกว่าที่กล่าวหานักการเมืองหรือไม่ วันนี้ถ้าท่านเป็นกรรมการอย่างที่เคยประกาศ ปัญหาและคำถามอาจจะไม่มากเท่านี้ แต่เมื่อท่านตัดสินใจก้าวลงมาเป็นผู้เข้าแข่งขันเสียเอง การกระทำการใดๆที่เป็นการเอาเปรียบคนอื่น หรือทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ต้องระมัดระวัง ไม่งั้นมันจะกลายเป็นการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า"