ไม่พบผลการค้นหา
องค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับพื้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเป็นพื้นที่แพร่ระบาดฉุกเฉินของเชื้อไวรัสอีโบลา ด้านรัฐบาลยอมรับการแก้ปัญหาล่าช้าเพราะระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ

เมื่อวันพุธ (18 ก.ค.) ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลก WHO ประกาศให้ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเป็นพื้นที่กังวลของนานาชาติทางด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน จากกการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาภายในประเทศ โดยระบุว่า ความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในประเทศคองโกและในภูมิภาคนั้นยังคงมีอัตราสูง แต่การแพร่กระจาย���องเชื้อออกไปภายนอกภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ

ดร.โอลี่ อิลลันกา รัฐมนตรีสาธารณสุขของคองโก กล่าวว่า สถานการณ์โรคอีโบลาในประเทศยังไม่เข้าขั้นวิกฤตของมนุษยชาติ แต่ทางกระทรวงฯ ยอมรับการประกาศยกระดับสถานการณ์การแพร่ระบาดฉุกเฉินของ WHO 

นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขคองโกยังกล่าวยอมรับว่า การควบคุมการแพร่ระบาดนั้นส่วนหนึ่งเป็นเรื่องประเด็นของการพัฒนาในภูมิภาคและระบบสาธารณสุขที่ไม่เข้มแข็งและตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังหาทางป้องกันการแพร่ระบาดให้กับประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา

ขณะที่มุสซา ซานการา ผู้อำนวยการรับผิดชอบเรื่องเชื้อไวรัสอีโบลาจาก World Vision ระบุว่า การประกาศของ WHO เสมือนช่วยปลดล็อกการระดมทุนและการให้ความช่วยเหลือทางด้านสาธารณสุขในคองโก ซึ่งปัจจุบันต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก

สำหรับสถานการณ์ในประเทศคองโกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เผยเเพร่ศาสนารายหนึ่ง ผู้มีเชื้ออีโบลาได้เดินมายังเมืองโกมา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ติดกับชายแดนประเทศระวันดา โดยเดินทางด้วยรถบัส ต่อมานักเทศน์รายนี้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต่างตามตัวผู้ร่วมรถบัสหลายสิบคน เพื่อติดตามอาการเสี่ยงติดเชื้ออีโบลา ก่อนจะแพร่กระจายไปยังผู้อื่น

วานนี้ (17 ก.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของประเทศอูกันดาประกาศว่า ผู้หญิงชาวคองโกรายหนึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศอูกันดา ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต โดยตรวจพบว่าเธอเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา

การกลับมากระบาดของเชื้ออีโบลาในคองโก เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายฤดูร้อนปี 2018 โดยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขของคองโกประกาศการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในเมืองคีนุ ทางตอนเหนือของประเทศ

ปัจจุบันรายงานของ WHO ระบุว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลามีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 1,676 คน จากจำนวนที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 2,512 คน

ที่มา CNN / The independent

ข่าวที่เกี่ยวข้อง