ไม่พบผลการค้นหา
เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกปี 2563 ติดลบร้อยละ 6.8 หดตัวครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษ เหตุจากโควิด-19 ระบาด ยอดค้าปลีกลดลงร้อยละ 16 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 6 ทางการหาทุกวิถีทางสกัดจีดีพีไตรมาสสองติดลบ ป้องเศรษฐกิจถดถอย

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนหดตัวร้อยละ 6.8 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มากกว่าตัวเลขที่นักเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์สคาดการณ์เอาไว้ว่าจะหดตัวลงที่ร้อยละ 6.5 โดยนี่ถือเป็นครั้งแรกที่จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเผชิญกับการหดตัวของเศรษฐกิจนับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกข้อมูลตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจรายไตรมาสเมื่อปี 2535 

ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนยังระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค. ลดลงร้อยละ 1.1 จากปีก่อนหน้า ยอดค้าปลีกเดือนลดลงร้อยละ 15.8 เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากต้องกักตัวอยู่บ้าน ขณะที่อัตราการว่างงานในเดือน มี.ค. อยู่ที่ร้อยละ 5.9 ดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.พ. ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.2

เศรษฐกิจจีนต้องหยุดชะงักในช่วง 3 เดือนแรกของปี จากมาตรการปิดเมืองและกักตัวเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสเมื่อช่วงปลายเดือนม.ค. ขณะที่นับตั้งแต่เดือนมี.ค. จีนได้เริ่มให้โรงงานต่างๆ กลับมาเริ่มการผลิตอีกครั้งและอนุญาตให้ธุรกิจเปิดทำการ แต่ก็เป็นกระบวนการที่ค่อยๆ ดำเนินไปเพื่อกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนการล็อกดาวน์ ซึ่งโรงงานและอุตสาหกรรมการผลิตถือเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน 

รายงานระบุว่าตัวเลขจีดีพีที่หดตัวลงมากกว่าที่ถูกคาดเอาไว้น่าจะเป็นแรงกดดันให้ทางการจีนต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเลขจีดีพีลดลงอีกในไตรมาสสองของปี ซึ่งจะยิ่งผลักให้จีนเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบเต็มรูปแบบ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้ให้สัญญาณจะดำเนินการเพิ่มขึ้นเพื่อจัดการกับผลกระทบที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 

ขณะที่การว่างงานที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางสังคม โดยธนาคารกลางจีนได้คลายนโยบายการเงินเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของสินเชื่อในเศรษฐกิจ ขณะที่รัฐบาลยังพึ่งพาการกระตุ้นทางการคลังเพื่อกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการบริโภค ซึ่งอาจทำให้การขาดดุลงบประมาณปี 2563 สูงเป็นประวัติการณ์  

อ้างอิง BBC/CNA/Financial Times