ไม่พบผลการค้นหา
ศาลนัด 'พานทองแท้ ชินวัตร” ฟังคำพิพากษาคดีกรุงไทย 25 พ.ย.นี้ 'โอ๊ค' หวังศาลมีเมตตา เพราะชี้แจงทุกอย่างตามความจริง

นายพานทองแท้ ชินวัตร กล่าวภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบนัดไต่สวนพยานนัดไต่สวน คดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 4 เป็น โจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ว่าวันนี้ตนไม่ได้เครียดอะไรมาก แต่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ ศาลได้สังเกตเห็นอาการตื่นเต้น เพราะถือว่าเป็นการเข้าไต่สวนเป็นครั้งแรก บรรยากาศในห้องพิจารณาไม่เครียด ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะพูดทุกอย่างตามความจริง

โดยวันนี้ตนเองได้ให้คำตอบกับศาลไปอย่างชัดเจน ในทุกข้อซักถาม แต่ก็ไม่ทราบว่าจะชัดพอไหม โดยมีความคาดหวัง สิ่งที่พูดไปกับศาลวันนี้ จะทำให้ผลการตัดสินจะออกไปในทิศทางที่ดี ซึ่งหลังจากเสร็จขึ้นศาลวันนี้ ตนเองจะไปทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล และจะกลับมาฟังคำตัดสินอีกครั้งในวันที่ 25 พ.ย. นี้ ซึ่งตนเองจะเดินทางมาฟังคำตัดสินด้วยตนเอง 

ส่วนการไต่สวนวันนี้ ใช้เวลาในการไต่สวนนายพานทองแท้ 2 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้เป็นการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งนายพานทองแท้ ได้ขึ้นเบิกความด้วยตนเองเพียงปากเดียว เกี่ยวกับการวางแผนที่จะดำเนินธุรกิจนำเข้ารถยนต์ซุปเปอร์คาร์ ที่มีนายรัชดา บุตรชายวิชัย ผู้บริหารเครือกฤษดามหานครร่วมด้วยว่า แนวคิดดังกล่าวตนเป็นผู้คิดเอง มาตั้งแต่ช่วงปี 2547 จากที่ได้มีการพูดคุยในกลุ่มเพื่อน 5-6 คน โดยหลังจากพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการแล้ว ในวันรุ่งขึ้น นายรัชดาได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับจำเลย ว่าจะขอร่วมลงทุนด้วย โดยเหตุที่นายรัชดาเร่งโทรมาคุย เพราะกังวลว่าจำเลยจะลืมชักชวนนายรัชดาในการลงทุนด้วย ซึ่งแนวคิดขณะนั้นคิดไว้เพียงว่าการลงทุนน่าจะต้องใช้เงินลงทุนคนละ 20 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่ารถซุปเปอร์คาร์ขณะนั้น จะตกอยู่ที่คันละ 20 ล้านบาทขึ้นไป 

โดยช่วงที่ยังไม่มีบุคคลอื่นมาร่วมเสนอลงทุนด้วย จำเลยก็ไม่ทราบเหตุผลโดยการจะดำเนินธุรกิจดังกล่าวนั้น ตนได้ให้ นายเฉลิม แผลงศร ซึ่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (CFO) ที่ดูแลเรื่องการเงินทุกบริษัทของจำเลยไปศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเหตุผลแม้จะไม่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ แต่ที่จำเลยมอบหมายงานให้ศึกษา เพราะเป็นผู้ที่จำเลยให้ความไว้วางใจในเรื่องที่ได้ดูแลเรื่องการเงินบริษัทและเงินส่วนตัว รวมทั้งธุรกิจของจำเลยด้วย

สุดท้ายธุรกิจนี้ไม่ได้ดำเนินไป ซึ่งยุติลงในชั้นของการศึกษาแนวทางก็เพราะนายเฉลิม ได้แจ้งผลการศึกษาการดำเนินธุรกิจนี้ให้กับจำเลยทราบว่า มีความเป็นไปได้ยาก และจะไม่คุ้มเงินลงทุนทางธุรกิจ ส่วนที่นายรัชดาโอนเงิน 10 ล้านบาทให้จำเลย ที่จะมาร่วมลงทุนโดยเป็นเช็คชื่อนายวิชัยนั้นจำเลยไม่ทราบเหตุผล 

นอกจากนี้ จำเลยยังได้ตอบคำถามศาลเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวและของตัวจำเลย รวมทั้งความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างตัวจำเลยกับนายเฉลิมและระหว่างตัวจำเลยกับนายรัชดาและนายวิชัย ว่าในครอบครัวของจำเลยมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมืองคือ นายทักษิณ บิดา,นางสาวยิ่งลักษณ์ อาของจำเลย ซึ่งทั้งสองเคยเป็นนายกรัฐมนตรีและลูกพี่ลูกน้องที่เป็น ส.ส.

ส่วนตัวจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยปัจจุบันจำเลยประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีอยู่ 7 กิจการ อาทิ บ.วอยซ์ทีวี, บ.ฮาวคัม โดยจำเลยมีรายได้ 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งในจำนวนนั้น 4 แสนบาท เป็นค่าตอบแทนที่ได้จากธุรกิจวอยซ์ทีวีที่เหลือเป็นเงินปันจากหุ้นบริษัทต่างๆ ซึ่งจำเลยจะมีค่าใช้จ่าย 4-5แสนบาทต่อเดือน

ส่วนธุรกิจของครอบครัวปัจจุบันมีประมาณ 7 กิจการ เช่น โรงแรมโรสวูด แบงค์คอก กับสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งบางกิจการจำเลยก็มีหุ้นอยู่ด้วย และกับใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างตัวจำเลยกับนายรัชดา รู้จักมาตั้งแต่อายุ 21 ปีและเคยไปหานายรัชดาที่บ้าน ซึ่งอยู่ในพื้นบริเวณเดียวกันกับบ้านของนายวิชัยแต่เป็นคนละหลัง โดยจำเลยไม่เคยไปพบนายวิชัยที่บ้าน 

ทั้งนี้ นายพานทองแท้ ยังตอบคำถามศาลด้วยว่า ระหว่างการถูกดำเนินคดีจำเลยได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ 3 หน่วยงาน ซึ่งได้กล่าวถึงประเด็นการเมืองที่เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งแต่ไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานได้ตรวจสอบ โดยมี 2 หน่วยงานที่แจ้งกลับมาว่าจะทำการตรวจสอบให้คือ สำนักงานอัยการสูงสุดและกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ โดยจำเลยยืนยันว่าจำเลยไม่รู้จักหรือมีสาเหตุโกรธเคืองใดๆ เป็นการส่วนตัวกับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้

ภายหลัง นายพานทองแท้ เบิกความตอบคำถามศาล ,อัยการโจทก์และทนายความจำเลยเสร็จสิ้นแล้วในเวลา 12.45น. ศาลเห็นว่าได้ไต่สวนพยานครบถ้วนเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้วจึงนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ตามกำหนดเดิม คือวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 10.30น.โดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน นับจากวันนี้หากไม่ยื่นภายในกำหนดจะถือว่าไม่ติดใจ

กราฟิกคดีกรุงไทย-graphic-voiceonline-suras


อ่านเพิ่มเติม