ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ วอนอย่าเพิ่งถามถึงวันหยุดชดเชยสงกรานต์​ ย้ำอย่ากดดันผ่อนปรนเฟส 4 แนะทุกคนต้องรู้จักป้องกันตัวเอง เผยยังไม่เคาะเปิดน่านฟ้า แย้มเปิดประเทศท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หวั่นคนไทยออกนอกประเทศจะแพร่เชื้ออีกกรณีญี่ปุ่นเปิดประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ครม.ได้เคยมีมติให้เลื่นอวันหยุดชดเชยช่วงสงกรานต์ออกไปก่อนว่า อย่าเพิ่งถามในตอนนี้ เพราะต้องติดตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้มีการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 โดยได้มีการกำชับให้หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข ท้องถิ่น ดูแลพื้นที่ที่ได้มีการผ่อนผันไปแล้วว่ามีความร่วมมือกันอย่างไร ถึงจะมีแนวทางเพื่อนำไปสู่การผ่อนปรนระยะที่ 4 ได้ในอนาคต 

ดังนั้นขออย่าเร่งรัดให้ผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 4 กันนักเลย สิ่งสำคัญต้องยอมรับความสามารถในด้านสาธารณสุขของไทย แพทย์พยาบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตำรวจ ที่ช่วยกันดูแลกันอย่างเต็มที่ โดยเสียสละเวลาโดยไม่มีวันหยุดราชการ อีกทั้งยังต้องผลัดเวรกันทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งสิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากประชาชนเพราะคือความปลอดภัย ขณะเดียวกันได้มีการผ่อนผัน ให้มีการประกอบอาชีพที่ได้คำนึงถึงเศรษฐกิจฐานราก ทุกคนจึงต้องรู้จักป้องกันตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง จึงขอเตือนผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ดังนั้นต้องรู้จักรักคนอื่นด้วย นอกจากรักตัวเอง ประเทศไทยจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งให้ได้

ย้ำยังไม่เคาะเปิดน่านฟ้า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง และที่ตรวจพบส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศและตรวจพบในสถานที่กักกันของรัฐ แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานต่างๆ ที่ทำมาถือว่าได้ผล ซึ่งถึงแม้จะได้รับความไม่สะดวกสบายบ้าง แต่เป็นมาตรการ​ที่จำเป็น อีกทั้งรัฐบาลยังต้องใช้จ่ายงบประมาณจำนวนหนึ่งในการดูแลส่วนนี้ขณะที่ความก้าวหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นมีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยจะต้องมีการปรึกษากับต่างประเทศว่ามีความก้าวหน้าและมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไรซึ่งไทยถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสามารถสูงในด้านการวิจัย พัฒนายาและวัคซีนโดยร่วมมือกับภาคเอกชน และต่างประเทศซึ่งคิดว่าจะสามารถแก้ปัญหา รวมกันของคนทั้งโลกได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งไปยินดีกับความสำเร็จนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอน จึงขอให้เข้าใจในตรงนี้และอย่านำไปเป็นประเด็น

ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นจะอนุญาตให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศได้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าดีใจและยินดี แต่จะต้องดูมาตรการที่เหมาะสมก่อนว่าจะไปอย่างไร และเราจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดในประเทศเขาหรือไม่ ซึ่งจะต้องหาเลยทั้งสองฝ่าย พร้อมย้ำว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น การท่องเที่ยวก็จะเปิดในลักษณะแบบประเทศต่อประเทศก่อน เป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพสามารถควบคุมได้ โดยมีขั้นตอนของมาตรการไม่ใช่เปิดแบบเสรี แต่ต้องเตรียมให้พร้อมในการเปิดประเทศในลักษณะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จึงขอให้สถานประกอบการ​เตรียมความพร้อมไว้ ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีการพิจารณาเปิดน่านฟ้า ที่จะต้องมีการประเมินร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม